สถานการณ์ชายแดนจันทบุรี กัมพูชา ยอมเปิดด่านระบายรถสินค้าที่ติดค้างกว่า 120 คันแล้ว หลังมีการพูดคุยระดับพื้นที่ระหว่าง 2 ประเทศ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.68 ความคืบหน้ากรณีกัมพูชาปิดด่านโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เมื่อเวลาประมาณ 10 40 น. ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ล่าสุดที่บริเวณหน้าด่านชายแดน จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ. จันทบุรี หลังมีการพูดคุยระดับพื้นที่ของไทย และกัมพูชา ส่งผลให้มีการเปิดประตูด่านกัมพูชา และไทยเพื่อระบายรถสินค้าที่ติดค้างอยู่บริเวณหน้าด่าน โดยรวมสินค้าของไทยติดอยู่ประมาณ 120 คัน ส่วนฝั่งกัมพูชาเป็นรถคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ติดค้างอยู่ 70 คัน โดยเป็นการระบายจากรถทางฝั่งไทยขนาดเล็กก่อน แล้วเปิดทางให้รถคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ฝั่งกัมพูชาวิ่งผ่านผ่านข้ามแดน
ด้าน ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทยกัมพูชา จันทบุรี เปิดเผยว่า การปล่อยให้รถตกค้างผ่านข้ามแดนครั้งนี้ เป็นการพูดคุยขอการผ่อนปรนในระดับพื้นที่ ระหว่างจังหวัดพระตะบองกัมพูชา และ หน่วยทหาร สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทยกัมพูชาจังหวัดจันทบุรี ที่ตั้งอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อกัน เพื่อขอให้รถที่ติดค้างสามารถเคลื่อนผ่านผ่านแดน ลดความเสียหายของพี่น้อง 2 ประเทศเดิมทีรู้สึกแปลกใจ ว่าหลังจากที่ด่านอื่นๆ ปิดเป็นการชั่วคราว และเปิดให้ชาวกัมพูชา รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า ผ่านข้ามไปยังประเทศกัมพูชาได้ แต่ประตูด่านกัมพูชา ฝั่งด่านถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด
ขณะที่ทางประเทศกัมพูชา มีการแจ้งว่าสาเหตุที่ยังคงปิดด่านตรงข้ามด่านถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี เนื่องมาจากทางกัมพูชามองว่า จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม เป็นด่านใหญ่ เป็นจุดสำคัญในการขนถ่ายสินค้าและผลไม้ของประเทศ หากปิดด่านไม่ให้มีการขนส่งสินค้าผ่านไปยังประเทศกัมพูชา จะทำให้ชาวไทย พี่น้องเกษตรกร ได้รับความเดือดร้อน ในเรื่องของการขนส่งผลไม้ และระบายผลผลิตภายในประเทศ รวมไปถึงทำให้ราคาผลไม้ตกต่ำลงด้วย
ดร.รัฐวิทย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การเจรจาเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของการค้าหรือนักธุรกิจโดยตรง การจะเจรจาต้องให้รัฐบาลเป็นผู้เจรจาเท่านั้น ในส่วนของการบริหารจัดการเรื่องรถที่ยังคงตกค้างที่บริเวณหน้าด่านบ้านแหลม ได้มีการบริหารจัดการ จัดระเบียบการจอด เพื่อให้การค้าขายภายในตลาดยังคงคล่องตัว และสามารถดำเนินต่อไปได้ ยืนยันว่าทางฝั่งไทยไม่ได้ปิดด่าน แต่ว่าเป็นทางฝั่งกัมพูชา ที่ปิดด่านของตนเอง
ส่วนเรื่องของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า มีความกังวลใจว่าจะลุกลามไปถึงเรื่องของแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในประเทศประเทศไทย เช่น แรงงานในล้งผลไม้ แต่หากด่านอื่นๆ ยังคงเปิดอยู่ตามปกติ คิดว่าคงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก